ประกันเดินทาง
คุ้มครองคุณทุกก้าวที่ออกเดินทาง
ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองผู้เดินทางในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างการเดินทาง เช่น เจ็บป่วย อุบัติเหตุ กระเป๋าหาย เที่ยวบินล่าช้า หรือแม้แต่เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ในต่างประเทศ
โดยผู้ซื้อสามารถเลือกแผนที่เหมาะกับการเดินทางได้ ทั้งแบบ รายเที่ยว (ครั้งเดียว) หรือแบบ รายปี (เดินทางหลายครั้ง)
บางแผนยังครอบคลุมถึง โควิด-19, การยกเลิกทริป, หรือ ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองที่เลือก
การทำประกันการเดินทาง มีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน แม้จะเป็นเดินทางภายในประเทศ หรือต่างประเทศ ก็สามารถช่วยให้รู้สึกปลอดภัย และมั่นใจมากขึ้น
ประกันจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและการนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล หากผู้ทำประกันป่วยหรือได้รับบาดเจ็บในระหว่างการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการรักษานี้อาจมีราคาสูงเมื่อเทียบกับการรักษาในประเทศของตนเอง โดยเฉพาะในประเทศที่ระบบสาธารณสุขมีค่าใช้จ่ายที่สูง
บางแผนประกันจะมีความคุ้มครองสำหรับการยกเลิกหรือการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง เช่น หากคุณต้องยกเลิกการเดินทางที่ได้จองไว้ล่วงหน้าเนื่องจากเหตุสุดวิสัยหรือปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นกับคุณหรือคนในครอบครัว
หากกระเป๋าเดินทางหรือสิ่งของส่วนตัวของคุณสูญหายหรือถูกทำลายระหว่างการเดินทาง ประกันการเดินทางสามารถช่วยให้คุณได้รับการชดเชย
ในกรณีที่ผู้ทำประกันเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง ผู้รับประโยชน์จะได้รับการชดเชยตามเงื่อนไข
บางแผนประกันจะมีความคุ้มครองสำหรับภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือพายุ
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับความคุ้มครองที่คุณต้องการ ควรอ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดของแผนประกันที่คุณสนใจอย่างรอบคอบ และถ้าคุณมีข้อสงสัย ก็สามารถปรึกษาเราได้ที่
ควรซื้อก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 วัน
คุ้มครองทุกประเทศตามที่ระบุในกรมธรรม์ (ยกเว้นบางประเทศที่มีข้อยกเว้น เช่น ประเทศสงคราม)
ไม่คุ้มครองโรคประจำตัว ยกเว้นบางแผนที่ระบุไว้ชัดเจน
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับลูกค้า และ/หรือผู้เอาประกัน)
บริษัท พาราไดซ์ โทเคน เซอร์วิส จำกัด
บริษัท พาราไดซ์ โทเคน เซอร์วิส จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของบริษัท เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (“การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“เจ้าของข้อมูล”)
บริษัทยึดค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่เจ้าของข้อมูลมีให้แก่บริษัท เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับบริษัท ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะจัดการให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) มีวัตถุประสงค์ที่จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลได้ทราบดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลจะต้องอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้
อนึ่ง วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยในข้อ 3. รวมถึงวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้:
เจ้าของข้อมูลอาจเลือกที่จะไม่ให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการที่บริษัท ร้องขอ อย่างไรก็ดี การที่เจ้าของข้อมูลเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลบางประการดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูล หรือต่อการขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการของบริษัทต่อเจ้าของข้อมูล หรือต่อการตอบสนองต่อข้อร้องขออื่นๆ ของเจ้าของข้อมูลได้ เช่น บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาประกันกับเจ้าของข้อมูลได้ หรือ บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือ บริการของบริษัท รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับการเรียกร้อง ค่าสินไหมทดแทน การจ่ายผลประโยชน์หรือเงินอื่นใดตามกรมธรรม์ให้แก่เจ้าของข้อมูลได้
บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บ เพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่เจ้าของข้อมูลสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือ การติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือระยะเวลาตามสมควร เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยบริษัทอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต
ช่องทางการขอใช้สิทธิ
เจ้าของข้อมูลสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ตามช่องทางด้านล่าง
ไปรษณีย์
เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่เจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทจำต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ (ซึ่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่) และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ดังระบุในนโยบายฉบับนี้ เพื่อใช้ในการดำเนินการ ส่งเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและการสื่อสารการตลาดทางตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการของ บริษัท คำแนะนำและข้อมูลในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึงการประกัน และ เงินบำนาญ ตลอดจนการบริหารความมั่งคั่ง การลงทุน การธนาคาร บริการทางการเงิน การรักษาทางการแพทย์/การรักษาเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การจ้างงาน การฝึกอบรม โปรแกรมให้รางวัล/ให้ผลประโยชน์สำหรับการเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์/ให้สิทธิพิเศษ กิจกรรมการกุศล/กิจกรรมที่ไม่หวังผล และ การจัดกิจกรรมทางการตลาด การประกวด จับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ และการแข่งขันต่างๆ ซึ่งเจ้าของข้อมูลเลือกที่จะเข้าร่วม
ข้อกำหนดและเงื่อนไข