FiftyNine

แบบนี้เรียกโกงได้หรือป่าวว

59 ดูแลได้ขนาดนี้เลยหรอ!

ผลที่ไม่ได้ทำ

  1. ไม่อุ่นใจเมื่ออกจากบ้าน หรือเดินทางไกล
  2. หากเกิดเหตุ ต้องเจรจาและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
  3. หากมีกรณีขึ้นศาล ต้องเสียเงินจ้างทนายความเอง
  4. ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด หากคู่กรณีเรียกร้องค่าชดเชย ต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด

ผลที่ได้รับ

  1. อุ่นใจเมื่ออกจากบ้าน หรือเดินทางไกล
  2. หากเกิดเหตุ มีประกันดูแลและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ในส่วนค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชย
  3. หากมีกรณีขึ้นศาล ทางประกันมีการเจรจาให้
  4. ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด ประกันดูแลเรื่องการชดเชยรายได้ให้คู่กรณี

สำหรับผลิตภัณฑ์ เราได้คัดสรรบริษัทประกันชั้นภัยชั้นนำเป็นพันธมิตรที่มีปณิธานเดียวกันคือ มุ่งเน้นบริการให้ความคุ้มครองสูงสุด และเน้นบริการหลังการขายทั้งหมด 10 บริษัทชั้นนำ ที่เรามั่นใจว่าเราสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างดี ภายใต้การดูแลของ 59 Fifty Nine Insurance

บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท คุ้มภัย โตเกียว มารีน ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

บริษัท เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

แชร์บทความนี้:

บทความอื่นๆ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับลูกค้า และ/หรือผู้เอาประกัน)

บริษัท พาราไดซ์ โทเคน เซอร์วิส จำกัด

  บริษัท พาราไดซ์ โทเคน เซอร์วิส จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความรับผิดชอบของบริษัท เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (“การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“เจ้าของข้อมูล”)

บริษัทยึดค่านิยมที่ถือว่า ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่เจ้าของข้อมูลมีให้แก่บริษัท เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับบริษัท ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะจัดการให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) มีวัตถุประสงค์ที่จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลได้ทราบดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม
  2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างไร
  3. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
  4. บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจากบริษัท
  5. การโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ
  6. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
  8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
  9. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
  10. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
  11. ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลจะต้องอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม
    บริษัทอาจจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ตามที่กำหนดไว้ใน มาตรา 26 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“คณะกรรมการ” กำหนด) ซึ่งรวมถึง
    1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลเป็นการทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเกิด อายุ อาชีพ เพศ สถานภาพทางการสมรส รูปถ่าย หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ เลขที่หนังสือเดินทาง อีเมล และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่น ๆ
    2. ข้อมูลและประวัติเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าของข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงชื่อและที่อยู่ของนายจ้าง
    3. ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี รายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร รายละเอียดเกี่ยวกับเงินกู้ ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน รายละเอียดเกี่ยวกับบัตรเครดิต และรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินอื่น ๆ
    4. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการถูกดำเนินคดีความของเจ้าของข้อมูล เช่น ประวัติอาชญากรรม บันทึกเกี่ยวกับการดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่ง หรือการดำเนินคดีอื่น ๆ รวมไปถึงรายงานของตำรวจ และคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้อง
    5. ข้อมูลด้านสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ของเจ้าของข้อมูล เช่น ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการขอคำปรึกษา บันทึกการตรวจทางการแพทย์ บันทึกการสืบสวนทางการแพทย์ บันทึกของพยาบาล ประวัติการสั่งจ่ายยา บันทึกการรักษา รายละเอียดการบริการทางการแพทย์ที่ได้รับ รายงานทางการแพทย์ รายงาน การชันสูตรพลิกศพ และรายละเอียดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ รวมไปถึงคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ และข้อมูลหรือ สิ่งใดๆ ที่แสดงออกมาในรูปเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียงการบันทึก โดยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ ปรากฏขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ตามที่หน่วยงานที่มีอำนาจเกี่ยวกับการคุ้มครองและจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลประกาศกำหนด
    6. รายละเอียดผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการต่าง ๆ ที่เจ้าของข้อมูลเคยซื้อจากบริษัท หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น ๆ เช่น หมายเลขกรมธรรม์ จำนวนเงินเอาประกัน การเปลี่ยนแปลง/การทำธุรกรรมเกี่ยวกับกรมธรรม์ วิธีการจ่ายเบี้ยประกัน ประวัติการชำระเบี้ยประกัน หรือประวัติเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน ผู้รับประโยชน์ ผู้ชำระเงินตามกรมธรรม์ การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน รวมถึงการใช้สิทธิต่างๆ ภายใต้กรมธรรม์ หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่นๆ ของบริษัท หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น ๆ
    7. สถานะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนเงินแก่ การก่อการร้าย และภาวะล้มละลาย กฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและ นิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA)
    8. ข้อมูลทางเทคนิค และกิจกรรมส่วนบุคคล/ลักษณะการใช้งานที่เจ้าของข้อมูลชอบ เมื่อเจ้าของข้อมูล ใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชันของบริษัท และอาจรวมถึงแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของ ผู้ให้บริการอื่น เช่น ชื่อเรียกตัวตนเฉพาะของลูกค้าที่ใช้บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ที่อยู่ไอพี ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา ประเภทของปลั๊กอินในเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการ และแพลตฟอร์ม ข้อมูลผู้ใช้ (user profile) ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ข้อมูลเครือข่ายไร้สายและข้อมูลเครือข่ายทั่วไป
  2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างไร
    บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยวิธีต่อไปนี้
    1. เมื่อเจ้าของข้อมูลแสดงเจตนาจะซื้อหรือใช้ประกันส่วนบุคคล ประกันกลุ่ม รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับเงินบำนาญของบริษัทและผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ของกลุ่มบริษัท และ/หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลเข้าถึงหรือใช้เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน และ/หรือบริการต่างๆ ทางออนไลน์ บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือ ทางโทรศัพท์ หรือบริการอื่นๆ ของบริษัท (“ผลิตภัณฑ์” หรือ “บริการ”)
    2. เมื่อเจ้าของข้อมูลส่งเอกสารและใบคำขอเอาประกัน เพื่อซื้อหรือใช้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลให้ข้อมูล ขณะที่พิจารณาจะซื้อหรือใช้ ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ของบริษัท
    3. เมื่อเจ้าของข้อมูลติดต่อสื่อสารกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นหนังสือหรือวาจา โดยไม่คำนึงว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ติดต่อฝ่ายนั้นก่อนหรือไม่ก็ตาม
    4. เมื่อเจ้าของข้อมูลส่งคำร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลซื้อหรือบริการที่เจ้าของข้อมูลใช้ หรือคำร้องขออื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลซื้อหรือบริการที่เจ้าของข้อมูลใช้ รวมถึงการส่งแบบฟอร์มและเอกสารเกี่ยวกับการขอซื้อหรือรับบริการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท
    5. เมื่อเจ้าของข้อมูลติดต่อกับบุคลากร เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พนักงานขาย ตัวแทน นายหน้า คนกลางประกันภัย ผู้รับจ้าง คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องของบริษัท (เรียกรวมกันว่า “บุคลากรและคู่ค้าของบริษัท”) ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ หรือโดยวิธีการอื่นใด
    6. เมื่อบริษัทได้รับการแนะนำจากเจ้าของข้อมูล หรือเมื่อบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคลากรและคู่ค้าของบริษัท
    7. เมื่อเจ้าของข้อมูลส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือการแข่งขันต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัท และ/ หรือบุคลากรและคู่ค้าของบริษัท
    8. เมื่อบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงการได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เป็นสาธารณะ แหล่งข้อมูลส่วนตัว หรือแหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล (data providers) แหล่งข้อมูลทางการแพทย์ สถานบริการสาธารณสุข โรงพยาบาล แพทย์ บุคลากรผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขอื่น ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น สมาคมหรือสมาพันธ์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ที่เจ้าของข้อมูลซื้อหรือบริการที่เจ้าของข้อมูลใช้ ใบคำขอเอาประกันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลซื้อ หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลใช้ การรับประกันความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลซื้อ การร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ที่ซื้อหรือใช้โดยเจ้าของข้อมูล
    9. เมื่อบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอกเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกำกับดูแลในประการอื่นๆ ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
  3. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
    ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอาจถูกเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอน เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
      1. เพื่อเสนอขาย ขาย จัดให้ บริหารจัดการ ดำเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ และจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการของบริษัทให้แก่เจ้าของข้อมูล
      2. เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ จัดการ ทำให้แล้วเสร็จ ซึ่งการให้บริการ หรือ ผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมทั้งแต่ไม่จำกัดเพียงแต่การประเมินข้อมูลทางการเงินของเจ้าของข้อมูล และการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมให้แก่เจ้าของข้อมูล การปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการเกี่ยวกับใบคำขอเอาประกันสำหรับผลิตภัณฑ์ การจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลซื้อ การเก็บเบี้ยประกัน และเงินค้างชำระจากเจ้าของข้อมูล การบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การสืบสวน วิเคราะห์ ประมวลผล การเวนคืนกรมธรรม์ และการจ่ายค่าสินไหมทดแทน/ การจ่ายผลประโยชน์หรือเงินอื่นใดตามกรมธรรม์ของเจ้าของข้อมูล และการต่ออายุ ปรับปรุงแก้ไข ยกเลิกกรมธรรม์ของเจ้าของข้อมูล
      3. การใช้สิทธิใด ๆ ภายใต้กรมธรรม์ของเจ้าของข้อมูล ซึ่งรวมถึงสิทธิในการรับช่วงสิทธิ และสิทธิที่ได้รับช่วงมาด้วย (หากมี)
      4. การออกแบบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการใหม่ของบริษัท หรือการเสริมเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ และ/ หรือบริการที่มีอยู่ของบริษัท
      5. การดำเนินการเพื่อทำประกันภัยต่อสำหรับผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการของบริษัทหรือการซื้อผลิตภัณฑ์ หรือบริการจากบุคคลภายนอกโดยบริษัทหรือกลุ่มบริษัทเพื่อนำมาขายหรือให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล
      6. การติดต่อสื่อสารระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูล ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบัญชีใดๆ ที่เจ้าของข้อมูลอาจมีกับบริษัท การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ในอนาคต
      7. การทำวิจัยทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และการทำวิจัยเชิงสถิติหรือคณิตศาสตร์ประกันภัย การรายงานหรือการประเมินผลทางการเงินที่จัดทำขึ้นโดยบริษัท บุคลากรและคู่ค้า ของบริษัทหรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
      8. การสืบสวนหรือป้องกันการกระทำที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง การปกปิดข้อความจริง และการกระทำผิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิดจริงหรือการกระทำที่สงสัยว่าจะเป็นการกระทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการติดต่อสื่อสารกับบริษัทต่าง ๆ ในธุรกิจบริการทางการเงินและการประกันภัย หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัทตลอดจนเพื่อการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
      9. เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัท และเพื่อการทำธุรกรรมของบริษัท
      10. เพื่อให้เจ้าของข้อมูลสามารถเข้าถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ หรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะ
      11. บริษัทอาจประมวลผลพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเจ้าของข้อมูล และการทำความเข้าใจลักษณะการใช้งานที่เจ้าของข้อมูลชอบ เพื่อจัดทำให้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้นตอบสนองอย่างเหมาะสมกับเจ้าของข้อมูลโดยเฉพาะ เพื่อการประเมิน หรือดำเนินการ และการปรับปรุงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้น หรือผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท การแก้ไขปัญหาต่างๆ การแนะนำผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่เกี่ยวข้อง และการจัดโฆษณาบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และช่องทางอื่นๆ ตามกลุ่มเป้าหมาย
      12. เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบภายใน หรือการตรวจสอบจากบุคคลภายนอก
      13. เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
      14. เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการ จัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
      15. เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่ดูแลธุรกิจประกันภัย หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจของกลุ่มบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
      16. เพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย หรือการให้ความช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือ การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ในประเทศ และการดำเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และข้อกำหนดต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใดๆ หรือการดำเนินการตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ
      17. เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านการตรวจสอบและเพิ่มคุณภาพ รวมทั้งการฝึกอบรม เมื่อมีการบันทึกการติดต่อสื่อสารของบริษัท
      18. เข้าซื้อ หรืออาจจำหน่ายหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งธุรกิจ (บางส่วนของธุรกิจ) ของบริษัท
      19. เพื่อการดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น

    อนึ่ง วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยในข้อ 3. รวมถึงวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้:

    1. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
    2. เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคล
    3. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัท
    4. เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    5. เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
    6. มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน

    เจ้าของข้อมูลอาจเลือกที่จะไม่ให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการที่บริษัท ร้องขอ อย่างไรก็ดี การที่เจ้าของข้อมูลเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลบางประการดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูล หรือต่อการขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการของบริษัทต่อเจ้าของข้อมูล หรือต่อการตอบสนองต่อข้อร้องขออื่นๆ ของเจ้าของข้อมูลได้ เช่น บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการเพื่อเข้าทำสัญญาประกันกับเจ้าของข้อมูลได้ หรือ บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือ บริการของบริษัท รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับการเรียกร้อง ค่าสินไหมทดแทน การจ่ายผลประโยชน์หรือเงินอื่นใดตามกรมธรรม์ให้แก่เจ้าของข้อมูลได้

    เว้นแต่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น บริษัทจะแจ้งและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หากบริษัทประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  4. บุคคลใดบ้างที่อาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจากบริษัท
    บริษัทจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้เป็นความลับ แต่ทั้งนี้ ในกรณีที่กฎหมาย ที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ หรือกรณีที่การเปิดเผยดังกล่าวมีความจำเป็น เพื่อให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุข้างต้น บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแก่บุคคลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
    1. บุคคลใดก็ตามที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการในฐานะบุคลากรและคู่ค้าของบริษัท เพื่อทำการเชิญชวน ชักชวน ชี้ช่อง จัดการให้ทำ เสนอขาย ขาย จัดจำหน่าย หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่เสนอ โดยบริษัทให้แก่เจ้าของข้อมูล รวมถึง ส่งมอบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทที่มีการขาย จัดจำหน่าย หรือให้บริการให้แก่เจ้าของข้อมูล เช่น บริษัทประกันภัยต่อ บริษัทจัดการการลงทุน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัทต่าง ๆ ซึ่งทำการสืบสวน หรือคู่ค้ารายอื่นๆ
    2. ผู้ถือกรมธรรม์ ในกรณีของผลิตภัณฑ์ประกันแบบกลุ่ม
    3. ผู้แนะนำการลงทุน และ/ หรือผู้วางแผนการลงทุน ในกรณีของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (“Unit Link”)
    4. บุคคลใดก็ตามที่ได้รับการว่าจ้าง หรือ เข้าทำสัญญาเพื่อปฏิบัติงานให้แก่บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทเพื่อทำการเชิญชวน ชักชวน ชี้ช่อง จัดการให้ทำ เสนอขาย ขาย จัดจำหน่าย หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการที่เสนอโดยบริษัทให้แก่เจ้าของข้อมูล
    5. บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทบริษัทไม่ว่ารายใดก็ตาม ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับการจัดการต่างๆ การให้บริการประมวลผลข้อมูล บริการเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ บริการเกี่ยวกับการชำระเงิน การทวงหนี้ หรือ การหักบัญชีหลักทรัพย์ บริการโทรคมนาคม บริการด้านเทคโนโลยี บริการคลาวด์ บริการจัดหาผู้รับจ้างปฏิบัติงาน บริการคอลเซ็นเตอร์ บริการจัดเก็บของ การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสาร บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการสแกนเอกสาร บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการจัดพิมพ์ บริการส่งพัสดุหรือบริการรับส่งพัสดุโดยพนักงานรับส่งพัสดุ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการตลาด บริการทำการวิจัย บริการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน บริการทางกฎหมาย หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท หรือการจัดให้มีการบริหารจัดการ การดำเนินการ การปฏิบัติตามขั้นตอน หรือการจัดการต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทให้แก่เจ้าของข้อมูล
    6. ผู้ประกอบธุรกิจประกันอื่น ๆ
    7. สมาคมหรือสมาพันธ์ในภาคธุรกิจประกันภัย
    8. หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือบุคคลอื่นใดในประเทศที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลให้ (ก) ตามหน้าที่ตามกฎหมายและ/ หรือตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศไทย และอาจรวมถึงหน่วยงานของรัฐในประเทศที่กลุ่มบริษัทตั้งอยู่ หรือ (ข) ตามข้อตกลง หรือ นโยบายระหว่างบริษัท กับรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
    9. ผู้ให้คำปรึกษาของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ อาทิเช่น ทนายความ แพทย์ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือที่ปรึกษา
    10. บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ ได้
    11. ผู้เข้าทำธุรกรรม หรือ จะเข้าทำธุรกรรมกับบริษัท โดยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล อาจเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขาย หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายของกิจการของบริษัท (หากมี)
    12. บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
  5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บ เพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่เจ้าของข้อมูลสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือ การติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต

    บริษัทจะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูล ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น
  6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการขอใช้สิทธิ
    เจ้าของข้อมูลมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ดังต่อไปนี้
    1. เพิกถอน หรือ ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขตความยินยอมของเจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้กับบริษัท
    2. ตรวจสอบว่าบริษัทมีข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลหรือไม่ ตลอดจนสิทธิในการเข้าถึง หรือขอรับสำเนาของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และ/หรือเข้าถึงข้อมูลว่าบริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอย่างไร รวมถึงสิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม
    3. ขอให้บริษัททำการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลให้ถูกต้อง
    4. ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในบางสถานการณ์
    5. คัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในบางสถานการณ์
    6. ขอให้บริษัทโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในบางสถานการณ์
    7. ขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นการชั่วคราวในบางสถานการณ์

    ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือระยะเวลาตามสมควร เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยบริษัทอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต

    นอกจากนั้น เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะเสนอข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามขั้นตอนที่กำหนดใน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    ช่องทางการขอใช้สิทธิ

    เจ้าของข้อมูลสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ตามช่องทางด้านล่าง

    ไปรษณีย์

    Customer Service
    บริษัท เอ เอ็น ซี โบรกเกอร์เรจ จำกัด
    126/5 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
    Customer Service
    0-2881-1888 วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.
    E-mail address
    PDPA@ancbroker.com
    อย่างไรก็ดี หากปรากฏอย่างชัดเจนว่าคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลเป็นคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล หรือ คำร้องขอฟุ่มเฟือย บริษัทอาจมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้นเท่าที่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอนุญาต
    Download แบบฟอร์ม แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล : Download
  7. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
    บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ เท่าที่กฎหมายอนุญาต โดยบริษัทจะแจ้งการแก้ไข การเปลี่ยนแปลง การปรับปรุง หรือการปรับเปลี่ยนนโยบายให้เจ้าของข้อมูลทราบ หากการแก้ไขปรับปรุงนโยบายนั้นเป็นสาระสำคัญของนโยบายฉบับนี้ การแจ้งนั้นสามารถทำได้ทางอีเมล หรือวิธีการสื่อสารทั่วไปวิธีอื่นๆ และหากจำเป็น บริษัทอาจขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
  8. ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม
    หากเจ้าของข้อมูลมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนใดๆ ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล กรุณาติดต่อบริษัทที่ช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ข้างต้น
  9. การประมวลผลเพื่อการดำเนินการส่งเสริมการขาย

    เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่เจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทจำต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ (ซึ่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่) และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ดังระบุในนโยบายฉบับนี้ เพื่อใช้ในการดำเนินการ ส่งเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและการสื่อสารการตลาดทางตรงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการของ บริษัท คำแนะนำและข้อมูลในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึงการประกัน และ เงินบำนาญ ตลอดจนการบริหารความมั่งคั่ง การลงทุน การธนาคาร บริการทางการเงิน การรักษาทางการแพทย์/การรักษาเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การจ้างงาน การฝึกอบรม โปรแกรมให้รางวัล/ให้ผลประโยชน์สำหรับการเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์/ให้สิทธิพิเศษ กิจกรรมการกุศล/กิจกรรมที่ไม่หวังผล และ การจัดกิจกรรมทางการตลาด การประกวด จับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ และการแข่งขันต่างๆ ซึ่งเจ้าของข้อมูลเลือกที่จะเข้าร่วม

    โดยในการดำเนินการดังกล่าวนี้ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคลากรและคู่ค้าของบริษัท เพื่อการดำเนินการใดๆ เพื่อให้บริษัทบรรลุวัตถุประสงค์นี้ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้
    เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการถอนความยินยอมเกี่ยวกับการประมวลผลเพื่อการส่งเสริมการขายได้ตลอด โดยผ่านช่องทางการติดต่อดังระบุในนโยบายฉบับนี้ หรือกดปุ่ม unsubscribe ในอีเมล หรือ SMS ที่เจ้าของข้อมูลอาจได้รับ
  10. ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
    เนื่องจากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น ประวัติสุขภาพ ซึ่งอาจรวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อการซื้อ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท กล่าวคือ ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อการพิจารณารับประกันภัย ตลอดจนการเสนอขาย ขาย จัดจำหน่าย หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการบางประเภทของบริษัท การจ่ายค่าสินไหมทดแทน และเงินอื่นใดตามสัญญาประกันวินาศภัย บริษัทจึงจำต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว หากเจ้าของข้อมูลไม่ยินยอมให้บริการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทจะไม่สามารถให้ผลิตภัณฑ์ และให้บริการใดๆ แก่เจ้าของข้อมูลได้ เช่น บริษัทจะไม่สามารถพิจารณารับประกันได้ ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

  1. อายุรถไม่เกิน 10 ปี (ตามปีจดทะเบียน)
  2. จดทะเบียนใช้งานส่วนบุคคล (รหัส 110 เฉพาะรถกลุ่ม 3, 4, 5)
  3. รถยนต์ที่รับประกันภัย ได้แก่
  4. รถยนต์กลุ่ม 3 ได้แก่ Ford Focus / Honda Accord, Civic / Hyundai Sonata, Elantra / MG6 / Nissan Teana / Proton Exora, Gen 2, Persona, Saga, Preve, Suprima S/ KIA Soul, RIO / Toyota Camry, Prius / Subaru Levorg
  5. รถยนต์กลุ่ม 4 ได้แก่ Toyota Alis, Innova, Sienta / Nissan Pulsar, Sylphy / MG MG3, MG5 / Chery QQ, A1 / Suzuki SX4 / Mazda 3 / Mitsubishi Lancer EX
  6. รถยนต์กลุ่ม 5 ได้แก่ Nissan March, Almera, NOTE / Honda Brio, City, Jazz, Mobilio / Toyota Avanza, Vios, Yaris, Yaris Ativ / Suzuki Celerio / MAZDA 2 / Mitsubishi Attrage, Mirage / Suzuki Ciaz, Swift, Ertiga / Ford Fiesta
  7. รถกระบะ (รหัส 110) ได้แก่ Isuzu D-max / Mitsubishi Triton / Nissan Frontier Navara, NP300 Navara, Navara / Mazda BT-50, BT-50 Pro / Toyota Hilux -Vigo, Hilux-Revo / Ford Ranger / MG Extender / Foton Tunland
  8. รถ SUV ได้แก่ Toyota Fortuner, C-HR, Corolla Cross, Veloz / Isuzu Mu-7, Mu-X / Mitsubishi Pajero Sport, Outlander PHEV, Xpander, Xpander Cross / Nissan Juke, Kicks, Livina, Terra, X-Trail / Ford Eco Sport, Escape, Everest / Hyundai Creta / Subaru Forester, XV / Suzuki XL7 / Chery Cross, Tiggo / MG GS, HS, HS PHEV, ZS / KIA Carnival, Grand Carnival, Sorento / TR Tranformer, Tranformer LL / HAVAL H6, JOLION/ Honda BR-V, CR-V, HR-V, WR-V, Freed / Mazda CX-3, CX-5, CX-8, CX-30
Select more than one item for comparison.
preloader